Responsive image

1. การตรวจโดยใช้เครื่องมือตรวจด้วยตนเอง

หากเราสงสัยว่า ยาหรืออาหารเสริมบำรุงสุขภาพที่ใช้อยู่นั้นมีส่วนผสมของสเตียรอยด์หรือไม่ เราสามารถทดสอบได้ด้วยชุดตรวจสอบสเตียรอยด์เบื้องต้น (Steroid test kit อ่านว่า สเตียรอยด์-เทส-คิท หรือเรียกสั้นๆ ว่า เทสคิท) ที่มีใช้แพร่หลายและเป็นที่ยอมรับในปัจจุบันคือ ชุดตรวจสอบสเตียรอยด์เบื้องต้นของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งเราสามารถใช้ทดสอบได้ว่ายาหรืออาหารเสริมบำรุงสุขภาพที่สงสัยนั้น มีส่วนผสมของสารสเตรียรอยด์หรือไม่ หรือหากพบอาการผิดปกติใกล้เคียงกับการได้รับยาสเตียรอยด์นานๆ ให้ส่งตัวอย่างตรวจที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เขต หรือ โรงพยาบาลชุมชน (รพช.)

Responsive image

2 . การส่งตรวจ

ชุดตรวจสอบ สเตียรอยด์เบื้องต้น (เทสคิท) เป็นชุดตรวจสอบที่ทำให้เราทราบว่าตัวอย่างที่นำมาตรวจสอบมีสเตียรอยด์หรือไม่ แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าสเตียรอยด์ที่ปลอมปนนั้น เป็นสเตียรอยด์ชนิดเดกซาเมธาโซนหรือเพรดนิโซโลน และไม่สามารถบอกได้ว่าสเตียรอยด์ที่ปลอมปนนั้นมีปริมาณเท่าไหร่หากเราต้องการทราบชนิดของสเตียรอยด์หรือปริมาณสเตียรอยด์ที่ปลอมปนอยู่ เราจำเป็นจะต้องส่งตัวอย่างยาหรืออาหารเสริมบำรุงสุขภาพที่สงสัยไปยังห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียด โดยทั่วไปสามารถส่งตัวอย่างไปตรวจวิเคราะห์ได้ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์หรือศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งขณะนี้มีทั้งหมด 14 แห่งกระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ ในการส่งตัวอย่างเพื่อตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการนั้น ผู้ประสงค์ที่จะส่งตรวจวิเคราะห์ ตัวอย่างยาหรืออาหารเสริมบำรุงสุขภาพที่สงสัย ต้องเตรียมตัวอย่างให้ได้จำนวนหรือปริมาณตามที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์กำหนด เช่น การส่งตรวจวิเคราะห์เพื่อหาชนิดของสเตียรอยด์ที่ปนเปื้อนในยาแผนโบราณ หากเป็นชนิดเม็ดหรือแคปซูลต้องเตรียมตัวอย่างไม่น้อยกว่า 5 เม็ดหรือแคปซูล หากเป็นชนิดผงต้องไม่น้อยกว่า 20 กรัม หากเป็นชนิดน้ำต้องไม่น้อยกว่า 120 มิลลิลิตร โดยในการส่งตัวอย่างเพื่อวิเคราะห์ สามารถส่งได้ด้วยตนเองหรือส่งทางไปรษณีย์ก็ได้ อย่างไรก็ตามก่อนส่งตรวจตัวอย่างยาวิเคราะห์ ควรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น การเตรียมตัวอย่าง การนำส่งตัวอย่าง ค่าบริการในการตรวจวิเคราะห์ การรับฟังผลวิเคราะห์

สาธิตการทดสอบสารสเตียรอยด์เบื้องต้น โดยใช้ชุดเทสคิท


ขั้นตอนการทดสอบสารสเตียรอยด์เบื้องต้น โดยใช้ชุดเทสคิท

Responsive image

ขั้นตอนที่ 1

ถ้าตัวอย่างยาแผนโบราณเป็นเม็ดหรือลูกกลอนให้บดเม็ดยาให้แตกละเอียด หรือใช้กรรไกรสะอาดตัดเป็นชิ้นเล็กๆ

Responsive image

ขั้นตอนที่ 2

ตักตัวอย่างยาที่สงสัย (ที่บดแล้ว) ใส่ในหลอดพลาสติก หรือหยดตัวอย่างยาที่สงสัยชนิดเหลวลงในหลอดทดสอบสำหรับใส่ตัวอย่าง ปริมาณเท่าขีดสีน้ำเงินข้างหลอดทดสอบ (ขีดล่าง)

Responsive image

ขั้นตอนที่ 3

หยดน้ำยาละลายตัวอย่าง ลงในหลอดทดสอบ (ที่ใส่ตัวอย่างยาที่สงสัยไว้แล้ว) หยดจนถึงขีดสีแดงที่ข้างหลอดทดสอบ (ขีดบน)

Responsive image

ขั้นตอนที่ 4

ปิดจุก เขย่าให้เข้ากันอย่างน้อย 3 นาที แล้วตั้งทิ้งไว้ 15 นาที หรือจนกว่าน้ำยาส่วนใสจะแยกชั้น (สำหรับตัวอย่างที่เป็นของเหลวใสสามารถทดสอบได้ทันทีโดยไม่ต้องตั้งทิ้งไว้)

Responsive image

ขั้นตอนที่ 5

นำชุดทดสอบ (ลักษณะเป็นตลับ) ออกจากซองบรรจุ วางชุดทดสอบบนพื้นราบที่สะอาด ใช้หลอดหยดตัวอย่าง(ที่อยู่ในซอง) ดูดน้ำยาส่วนใสโดยพยายามไม่ให้มีฟองอากาศในหลอด และหยดน้ำยาที่ดูดลงในหลุมทดสอบ (การหยดควรตั้งหลอดหยดให้ตั้งตรง) หยดทีละหยด จำนวน 4 หยด

Responsive image

ขั้นตอนที่ 6

อ่านผลการทดสอบภายใน 10-15 นาที (ไม่ควรอ่านผลการทดสอบหลังจาก15 นาที ผ่านไป)


สเตียรอยด์ ดี ร้าย อย่างไร